Skip Navigation
  • พิมพ์

แบบประกันชีวิตลดหย่อนภาษี

ประกันชีวิตลดหย่อนภาษี

วางแผนลดหย่อนภาษีวันนี้เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดของคุณ

ปัจจุบันกรมสรรพากรยินยอมให้ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี* อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกแบบที่จะนำมาขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ แต่จะต้องตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งแบบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ใช้สิทธิได้ รวมถึงข้อกำหนดการหักลดหย่อนภาษีของแต่ละแบบ

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิในส่วนนี้ ต้องทำความเข้าใจกับข้อกำหนดของกรมสรรพากร เพื่อรับสิทธิประโยชน์สูงสุด ซึ่งเบี้ยประกันที่กรมสรรพากรอนุญาตให้ใช้ลดหย่อนภาษีได้ มี 2 ประเภทดังนี้

1. เบี้ยประกันชีวิตที่ทำให้ตัวเอง สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้เท่าที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้

  • เบี้ยประกันชีวิต ไม่รวมเบี้ยประกันภัยในส่วนความคุ้มครองอื่นๆ เช่นเบี้ยประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ และโรคร้ายแรง เป็นต้น
  • แบบประกันชีวิตต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
  • ในกรณีที่แบบประกันชีวิตมีเงินคืน เงินคืนนั้นต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันชีวิตรายปี หรือเบี้ยประกันชีวิตสะสม

2. เบี้ยประกันชีวิตของประกันแบบบำนาญที่ทำให้ตัวเอง สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นอีก 15% ของเงินได้ซึ่งต้องเสียภาษี** แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และซึ่งเงินก้อนนี้เมื่อนำไปรวมกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

  • กรณีไม่มีเบี้ยประกันชีวิตตามข้อ 1. สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปหักลดหย่อนแทนเบี้ยประกันชีวิตตามข้อ 1. ก่อนได้
  • กรณีมีคู่สมรส ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชำระเบี้ยสามารถแยกยื่นภาษี เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนในส่วนของตนเองได้

แนะนำแบบประกันชีวิตสำหรับสิทธิลดหย่อนภาษี 100,000 บาทแรก

เน้นคุ้มครองชีวิต พร้อมมีเงินก้อนให้กับคนข้างหลัง

คุ้มครองชีวิตถึงอายุ 90 ปี จ่ายเบี้ย 20 ปี 

  - เอซ ไลฟ์ โพรเทคเตอร์

  - เอซ สุพรีม ไลฟ์ โพรเทคเตอร์

คุ้มครองชีวิตถึงอายุ 99 ปี เลือกจ่ายเบี้ย 5, 10, 15 ปี หรือ จนถึงอายุ 70, 90 ปี

  - แบบประกันชีวิตตลอดชีพ

ดูแบบประกันอื่นๆ ที่เน้นคุ้มครองชีวิต >>

เน้นสะสมทรัพย์ มีเงินคืนระหว่างทาง พร้อมมีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคต

คุ้มครองชีวิต 15 ปี จ่ายเบี้ย 15 ปี

  - 15 ปี ทวีค่า

คุ้มครองชีวิต 21 ปี เลือกจ่ายเบี้ย 7 หรือ 15 ปี

  - 7 สมาร์ท แพลน

  - 15 สมาร์ท แพลน

ดูแบบประกันอื่นๆ ที่เน้นสะสมทรัพย์ >>

 

แนะนำแบบประกันชีวิตสำหรับสิทธิลดหย่อนภาษี 200,000 บาทหลัง

เน้นเงินบำนาญและวางแผนเกษียณอายุ

รับเงินบำนาญตั้งแต่อายุ 55-85 ปี เลือกจ่ายเบี้ย 15 ปี หรือจนถึงอายุ 55 ปี

  - แบบประกันบำนาญเพิ่มสุข 55/85

เลือกรับเงินบำนาญตั้งแต่อายุ 55-90 ปี หรือ 60-90 ปี และจ่ายเบี้ยจนถึงอายุ 55, 60 ปี

  - แบบประกันบำนาญซูเปอร์ ไลฟ์

ดูแบบประกันเพื่อวางแผนเกษียณอื่นๆ >>

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

1. เบี้ยประกันสุขภาพที่ทำให้พ่อแม่ สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท และตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้

  • ต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย (ไม่รวมบุตรบุญธรรม)
  • พ่อแม่ ต้องมีรายได้คนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
  • พ่อแม่ ต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทย
  • กรณีที่ผู้มีเงินได้ช่วยกันชำระเบี้ยหลายคน ให้เฉลี่ยหักค่าลดหย่อนเท่าๆ กัน แต่รวมกันต้องไม่เกิน 15,000 บาท

แนะนำแบบประกันสำหรับสิทธิลดหย่อนภาษี 15,000 บาท เมื่อซื้อให้พ่อแม่

แบบประกันที่แนะนำเป็นรูปแบบสัญญาเพิ่มเติม ต้องซื้อคู่กับแบบประกันชีวิตที่สามารถแนบความคุ้มครองเพิ่มเติมได้เท่านั้น

เน้นคุ้มครองยามเจ็บป่วย มีเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัด เมื่อรักษาตัวใน รพ.

คุ้มครองสูงสุดถึงอายุ 80 ปี

  - ประกันสุขภาพ (HS)

เน้นคุ้มครองยามเกิดอุบัติเหตุ มีเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัด รวมทั้งการสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

คุ้มครองสูงสุดถึงอายุ 65 ปี

  - ประกันอุบัติเหตุ (AI)

เน้นคุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง มีเงินชดเชยเป็นเงินก้อน เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง

คุ้มครองสูงสุดถึงอายุ 64 ปี

  - ประกันโรคร้ายแรง (DD)

2. กรณีที่พ่อแม่ทำประกันชีวิตให้ลูก โดยพ่อแม่เป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัย พ่อแม่ไม่สามารถเอาเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตไปลดหย่อนภาษีได้ เฉพาะเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ซื้อให้กับตัวเองหรือของคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ และค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่ซื้อให้พ่อแม่เท่านั้น ที่สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


 

* ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 162, 172, 194 และ 261

** กฎเกณฑ์ใหม่ของกรมสรรพากร สำหรับปีภาษี 2558 เป็นต้นไป การลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญจะคิดจากเงินได้ซึ่งต้องเสียภาษี ซึ่งไม่สามารถนำเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษีมารวมเป็นเงินได้เพื่อใช้สิทธินี้ เช่นกำไรที่ได้รับจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เงินรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น

การพิจารณารับประกันภัย และการอนุมัติสินไหมเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ